- กรมการพัฒนาชุมชน กำหนดให้จังหวัดดำเนินการโครงการเชิดชูเกียรติผู้นำเครือข่ายพัฒนาชุมชนดีเด่น ประจำปี 2553 โดยคัดสรรกิจกรรมเข้ารับโล่รางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และโล่รางวัลสิงห์ทองรวม 4 ประเภทได้แก่ หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง " อยู่เย็น เป็นสุข " / ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนดีเด่น ชาย,หญิง / กลุ่ม , องค์การชุมชนแกนหลักสำคัญในการพัฒนาหมู่บ้าน ฯ ดีเด่นระดับจังหวัด / ศูนย์ประสานงานองค์การชุมชนระดับตำบลดีเด่น
- จังหวัดนครสวรรค์ ดำเนินการตามโครงการเชิดชูเกียรติผู้นำเครือข่ายพัฒนาชุมชนดีเด่น ประจำปี 2553 โดยแต่งตั้งคณะกรรมการคัดสรรหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง "อยู่เย็น เป็นสุข" ดีเด่นและกิจกรรมพัฒนาชุมชนดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2553 ตามคำสั่งจังหวัด ฯ ที่ 346 / 2553 ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553
- ขณะเดียวกันเห็นว่ากิจกรรมตามแนวทางของกรมการพัฒนาชุมชนเมื่อปี 2552 ซึ่งมีกิจกรรมย่อย 8 กิจกรรม ได้แก่ผู้นำสตรี / ผู้นำวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง / ผู้นำอาชีพก้าวหน้า / ศูนย์เรียนรู้ชุมชน / กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต / ผลิตภัณฑ์ OTOP / กลุ่มอาชีพ และแผนชุมชน ยังเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และสามารถกระตุ้นให้การดำเนินการตามยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชุมชนบรรลุผลสัมฤทธิ์ได้ จึงสนับสนุนให้มีการพิจารณาผลการดำเนินงานของกิจกรรมข้างต้นในครั้งนี้ด้วย โดยจังหวัดได้แต่งตั้งคณะทำงานกลั่นกรองกิจกรรมพัฒนาชุมชนดีเด่นระดับจังหวัด (กิจกรรมเพิ่มเติม 8 ประเภท) ประจำปี 2553 ตามคำสั่งจังหวัด ฯ ที่ 1122 / 2553 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2553 นำเสนอคณะกรรมการ ฯ ตามคำสั่งจังหวัด ฯ ที่ 346 / 2553 ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553 ให้ความเห็นชอบและจัดมอบรางวัลในระดับจังหวัดด้วย
- จากการติดตามผลดำเนินงานกิจกรรมเพิ่มเติมทั้ง 8 ประเภท พบว่าแต่ละกิจกรรมมีความน่าสนใจ และสามารถถอดบทเรียนเพื่อนำใช้สนับสนุนกิจกรรมในพื้นที่ได้เป็นอย่างดียิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2553 ผมในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน ฯ พร้อมด้วยคณะทำงานได้เดินทางมาตรวจติดตามผลการดำเนินกิจกรรมเพิ่มเติม 8 ประเภทที่อำเภอหนองบัว ได้รับฟังสรุปผลการดำเนินกิจกรรมรายกิจกรรมแล้ว ได้พบกิจกรรมที่น่าสนใจสามารถสรุปบทเรียน โดยเฉพาะกิจกรรม " 1 งานพอเพียง 1 ไร่หล่อเลี้ยงครอบครัว " ของนายธีรพันธ์ บุญบาง ผู้นำวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง บ้านเนินน้ำเย็น หมู่ที่ 1 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ เป็นองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์สามารถที่จะนำเผยแพร่แก่ผู้สนใจได้จึงขออนุญาตท่านผู้ใหญ่ธีรพันธุ์ นำสรุปบทเรียนแก่ผู้สนใจ
ธีรพันธ์ บุญบาง : ผู้นำวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง
ธีรพันธุ์ บุญบาง เกิดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2497 เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวน 6 คน ของนายแหวน บุญบาง (อดีตกำนันตำบลหนองบัว) กับนางคำ บุญบาง ศึกษาจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนโพฒิสารศึกษา อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ปัจจุบันกำลังศึกษาระดับปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ (การปกครอง) ที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เริ่มต้นชีวิตการเป็นผู้นำด้วยการเป็นผู้ใหญ่บ้านตั้งแต่ปี 2530 ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 1 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ สมรสกับนางกาญจนา บุญบาง มีบุตร,ธิดา รวม 3 คน โทรศัพท์ 056-251252 และ 086 - 2034703
เบ้าหลอมนักปกครอง / นักพัฒนา
นับแต่เยาว์วัยจวบจนวัยหนุ่ม ธีรพันธุ์ บุญบาง ได้เรียนรู้และซึมซับความเป็นนักปกครองและนักพัฒนาจากกำนันแหวน บุญบาง ผู้เป็นบิดาไว้อย่างแนบแน่น
จิตวิญญาณของนักปกครองและนักพัฒนาได้ปลุกเร้าความสำนึกของธีรพันธุ์ บุญบาง อยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งในปีพุทธศักราช 2530 ธีรพันธุ์ บุญบาง ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์
ระหว่างการเป็นผู้ใหญ่บ้านธีรพันธุ์ บุญบาง ได้ริเริ่มนำผู้ติดยาเสพติดในหมู่บ้านที่มีอยู่จำนวน 13 ราย มาทำการบำบัดรักษาในลักษณะของ " ธรรมบำบัด " ผลงานครั้งนั้นทำให้อำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครสวรรค์ส่งผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษากับธีรพันธุ์ บุญบาง เป็นจำนวนถึง 8 รุ่น ๆ ละ 120 คน
บ้านเนินน้ำเย็น หมู่ที่ 1 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ ในความปกครองดูแลของ ธีรพันธุ์ บุญบางมีจำนวนครัวเรือนถึง 323 ครัวเรือน ประชากร จำนวน 1850 คน อาชีพส่วนใหญ่ทำนา และทำสวน ธีรพันธ์ บุญบาง และคณะกรรมการหมู่บ้านได้แบ่งการปกครองออกเป็น 22 คุ้ม คณะกรรมการหมู่บ้านของธีรพันธ์ บุญบาง พบว่าประชากรส่วนใหญ่ขาดการศึกษา ไม่มีความรู้ในการบริหารจัดการระบบต้นทุนในการประกอบอาชีพ ทำให้ฐานะยากจนมีผู้ตกเกณฑ์ความจำเป็นพื้นฐานเรื่องรายได้เป็นจำนวนมากกว่า 100 ครัวเรือน ธีรพันธ์ บุญบาง และคณะกรรมการหมู่บ้านได้นำระบบการจัดทำบัญชีครัวเรือนมาใช้ทุกครัวเรือน มีการวิเคราะห์รายรับ รายจ่าย ของครัวเรือนและชุมชน บ้านเนินน้ำเย็นของ ธีรพันธ์ บุญบาง จึงได้รับการคัดเลือกเป็นหมู่บ้านต้นแบบการจัดทำบัญชีครัวเรือนของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
หนึ่งงานพอเพียง
ผลการทำงานของ ธีรพันธ์ บุญบางทั้งด้านการปกครองและการพัฒนา ส่งผลดีต่อประชากรของบ้านเนินน้ำเย็นเป็นอย่างมาก ทำให้ธีรพันธ์ บุญบาง ได้รับรางวัลจากหน่วยงานต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีพุทธศักราช 2546 ธีรพันธ์ บุญบาง ได้รับรางวัลผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยมแหนบทองคำ จากกระทรวงมหาดไทย ขณะเดียวกันธีรพันธ์ บุญบาง ซึ่งเชื่อมั่น และศรัทธาต่อแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้น้อมนำแนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ปฏิบัติในครอบครัว ด้วยการนำหลักการพอประมาณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปฏิบัติในพื้นที่ 1 งาน ด้วยการดำนาปลูกข้าว เลี้ยงปลาดุกและเลี้ยงกบไปพร้อม ๆ กัน ธีรพันธ์ บุญบาง ค้นพบว่าพื้นที่ 1 งาน สามารถผลิตข้าวเปลือกได้ถึง 27 ถัง ปลาดุก 190 กิโลกรัม กบ 235 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 3 เดือน คิดเป็นรายได้ 29,600 บาท ในรอบระยะเวลา 1 ปี สามารถทำรายได้เช่นนี้ได้ 3 ครั้ง จึงทำให้ 1 ปี มีรายได้ถึง 88,800 บาท
นอกจากนี้ยังพบว่าแมลงและวัชพืชที่เกิดในนาสามารถเป็นอาหารของกบและปลาได้ด้วย ขณะเดียวกันขี้ปลา ขี้กบ ยังเป็นปุ๋ยให้แก่ต้นข้าวได้เป็นอย่างดี กระบวนการในพื้นที่นา 1 งานของธีรพันธุ์ จึงเป็นกระบวนการที่มีทั้งความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้นกัน ไปในตัว รายได้จากการใช้พื้นที่นา 1 งานทำให้ครอบครัวของธีรพันธุ์มีรายได้อย่างเพียงพอจาก 1 งานพอเพียงสู่ 1 ไร่หล่อเลี้ยงครอบครัว
จากพื้นที่เพียง 1 งาน ธีรพันธุ์ ได้ขยายพื้นที่เป็น 1 ไร่ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน ๆ ละ 1 งาน มีการจัดระบบน้ำ พืช และสัตว์ ให้สามารถเกื้อกูลและสนับสนุนกันได้ โดยในส่วนที่ 1 ธีรพันธุ์ ใช้พื้นที่สร้างคอกหมู คอกไก่ และทำนาบัว โดยให้คอกหมู คอกไก่ อยู่ในพื้นที่สูง และระบายมูลสัตว์จากคอกลงสู่นาบัว ที่เลี้ยงปลาดุกและกบไว้ด้วย พื้นที่ในส่วนนี้ธีรพันธุ์ มีรายได้จากการขายดอกบัว ปลาดุก กบ หมู และไก่ รวมทั้งมีการปลูกพืชผักสวนครัวไว้รอบนาบัวด้วย
ในส่วนที่ 2 เป็นพื้นที่ทำนาปลูกข้าว เลี้ยงปลาดุก และเลี้ยงกบ พื้นที่ส่วนนี้จะเป็นพื้นที่ราบต่ำเพื่อระบายน้ำจากพื้นที่ส่วนที่ 1 ลงสู่พื้นที่นี้
ในส่วนที่ 3 เป็นพื้นที่ใช้เพาะต้นกล้าเพื่อนำไปดำนา รวมทั้งมีร่องน้ำเลี้ยงปลาดุก ปลูกพืชผักสวนครัวทั้งชะอม ตะไคร้ ขิง ข่า กระเพราและโหระพา
ในส่วนที่ 4 เป็นพื้นที่อยู่อาศัย ธีรพันธุ์ใช้พื้นที่ส่วนนี้ปลูกบ้านพักอาศัยขนาดพออยู่อาศัย ใต้ถุนบ้านมีบ่อเลี้ยงกบ ปลาดุก และเลี้ยงเป็ดไข่ไว้ด้วย
ระหว่างพื้นที่ทั้ง 4 ส่วน ธีรพันธุ์ บุญบาง จัดระบบทางเดินให้เชื่อมต่อกัน ธีรพันธุ์ ปลูกพืชผักสวนครัว และตู้เย็นกลางแจ้งไว้ตลอดแนวทางเดิน มีการจัดระบบน้ำให้สามารถถ่ายเททั้ง 4 ส่วน ในลักษณะลาดชันแบบขั้นบันได
ปัจจัยที่ทำให้การทำงานในชุมชนประสบผลสำเร็จ
ธีรพันธุ์ บุญบาง แสดงทัศนะไว้ว่า " ความสำเร็จของการทำงาน ขึ้นอยู่กับผู้นำเป็นหลัก ผู้เป็นผู้นำจะต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองว่าสามารถทำงานให้สำเร็จได้ และต้องเชื่อมั่นต่อเพื่อนร่วมงานรวมทั้งคนในชุมชนว่าพวกเขามีความสามารถที่จะทำงานให้สำเร็จได้ เหนืออื่นใดเราจะต้องมีความเชื่อมั่นและศรัทธาต่องานที่ทำว่าสามารถอำนวยประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมได้ ขณะเดียวกันผู้นำจะต้องมีความรู้ในงานที่ทำอย่างถ่องแท้ รวมทั้งต้องมีคุณธรรมเป็นเครื่องกำกับด้วย "
วันนี้ ............. รายได้จากการใช้พื้นที่ 1 ไร่ ของธีรพันธุ์ บุญบาง สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวของธีรพันธุ์ ได้เป็นอย่างดี และยังเป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้ในการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรมและสามารถถ่ายทอดให้แก่ผู้สนใจได้เป็นอย่างดียิ่ง